ในวันศุกร์ที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา
ผมได้ได้มีโอกาสเดินทางไปสัมภาษณ์รุ่นพี่สถาปนิกของลาดกระบัง ที่บริษัท PAA
studio โดยได้มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณ ภูชิชย์ กิติเวชกูล หรือ พี่โน ซึ้งหัวข้อที่เราจะคุยกันในวันนี้นั้น
จะเป็นเรื่องของ วิชาชีพสถาปนิก และเรื่องราวของพี่โน รุ่นพี่สถาปัตลาดกระบัง
จากบริษัท PAA studio แห่งนี้คับ
คุณ ภูชิชย์ กิติเวชกูล หรือ พี่โน
ฝ่ายดูแล และบริหารงาน สถาปัตยกรรม
บริษัท PAA studio
ประวัติ และความเป็นมา
Q:สวัสดีครับพี่โน หัวข้อแรกอยากจะถามถึงความเป็นมา ทำมัยถึงอยากมาเป็นสถาปนิก และศึกษาที่ลาดกระบังหน่อยครับ
A:ในสมัยพี่โน ตอนนั้นยังเป็นระบบเอ็นทรานซ์ และเนื่องจากพี่ชอบวาดรูป ออกแบบต่างๆ จึงฝึกฝนมาตั้งแต่สมัยมัธยม และได้เลือกเอ็นทรานซ์ เข้าวิชาสถาปัตยกรรมในที่ต่างๆ จนในที่สุดก็เข้าผ่านเข้ามาในรั้วสถาปัตลาดกระบังแห่งนี้จนได้
เข้าศึกษาในปี พ.ศ.2528
จบการศึกษาในปี พ.ศ.2532
A: หลังจากนั้นก็ได้ไปสมัครทำงานที่บริษัท A49 เป็นที่แรก ในสมัยนั้นบริษัท
A49 ยังเป็นบริษัทที่เต็มไปด้วย สมาชิกที่จบจากมหาลัยจุฬา ซึ้งมีน้อยมากที่มาจากลาดกระบัง
และพี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ้งพี่มีมุมมองว่า เราควรที่จะไปทำงานในที่ต่างๆ สัมผัสผู้คน
บรรยากาศที่ต่างออกไปจากเดิมบ่าง เหมือนเป็นการเปิดโลกทรรศเราอย่างนึง
ซึ้งพี่ก็ทำงานที่ A49 ถึง 17 ปี หลังจากนั้นได้ออกมาทำงานเป็น ฟรีแลนซ์ และหลังจากทำงานเป็นฟรีแลนซ์อยู่ 2 ปี ในที่สุดก็
มาทำงาน ณ PAA studio แห่งนี้ในปี พ.ศ.2553 จนถึงปัจจุบัน
การทำงานที่ PAA studio
Q:ในบริษัท PAA studio แห่งนี้ พี่โนทำงานอยู่ทางด้านไหนหรอครับ
A:ทุกวันนี้สเกลออฟฟิศยังค่อนข้างเล็ก งานส่วนใหญ่จะได้ทำหลายๆอย่าง ช่วยๆกันทำ
ซึ้งส่วนใหญ่งานของพี่จะเป็นฝ่ายดูแล บริหารจัดการด้านต่างๆ วิเคราะห์คอนเซป คิดต้นแบบงาน
แล้วส่งตัวงานให้รุ่นน้องที่เป็นฝ่ายต่างๆที่บริษัททำต่อไป ซึ้งส่วนใหญ่แล้ว บริษัท PAA
studio จะทำงานในโปรแกรม sketchup เพื่อเป็นขั้นแรกในการนำเสนอ และขายแบบ
เทคนิคการนำเสนองานของ พี่โน
" การมีตัวเลือกให้ลูกค้า การเปรียบเทียบถึงข้อดี ข้อเสียของแต่ล่ะแบบ
และสิ่งที่สำคัญคือจากจัดสรรเวลา เพื่อให้ได้งานที่ออกมาดูดีที่สุด "
A:อุปสรรคที่มักจะเจอง่ายที่สุดคือ การเข้าใจแบบไม่ตรงกัน ระหว่างนักออกแบบ กับผู้รับเหมา ในบางครั้งที่ผู้เราเหมาเป็นคนที่ค่อนข้างยึดติดกับหลักการทำงานของตัวเอง ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะทำให้เค้ามาทำตามหลักวิธีการของเรา ซึ้งสุดท้ายก็จะกลายเป็นว่าเราต้องไปคอยแก้สิ่งต่างๆ ซึ้งการแก้ไขอะไรต่างๆเหล่านี้ย่อมตามมากับค่าราคาต่างๆ เหล่านี้ก็จะเป็นปัญหาเวลาทำงานเป็นนักออกแบบ
ข้อคิดในการทำงานของพี่โน
เราต้องรู้จักจัดสรรเวลา ให้มันพอดี ซึ้งบางครั้งที่เวลามีจำกัด เราต้องมีการวางแผน
เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์ที่สุด เท่าที่ทำได้ในเวลาที่จำกัด
ซึ้งบางสิ่งอย่างเราต้องรู้จากที่จะตัดใจไปบ่าง
เพื่อให้งานขั้นตอนสุดท้ายออกมาเสร็จครบท่วน ทีมันจะไม่ดีมากที่สุดอย่างที่คาดหวัง
แต่ก็ยังดีกว่างานที่ออกมาดี แต่มันไม่เสร็จ
งานที่ดี คืองานที่พอดี
ความงามคือความพอดี และความพอดีคือความงาม
มุมมองด้านอาชีพสถาปนิก
Q: พี่โนมีความคิดยังไงเกียวกับเทรนของอาชีพสถาปนิกในปัจจุบัน กับเทรนในอนาคตบ่างครับ
A: พี่ว่าโอกาสโตยังมีเยอะน่ะ เนื้องด้วยเนื้องานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในมุมมองของพี่ เทรนของสถาปนิก ในอนาคต มันจะเป็นเหมือน บริษัทแอปเปิ้ล แนวคิดของมัน น้อยๆ แต่มันมีอิมแพค สร้างที่ไหนก็สวย มองถึงอะไรที่เรียบง่าย แต่สวย อะไรที่ไม่จำเป็นต้องเยอะ แต่ก็สามารถทำให้คนชอบได้
“สิ่งที่นิ่งๆ แต่มัน Classic มันจะเป็นสิ่งที่อยู่ได้นาน”
Q: นอกจากนั้นแล้ว พี่คิดยังไงกับการที่ประเทศไทยของเรากำลังจะเปิด เสรีอาเซียน บ่างครับ
A:พี่ มองว่า ตัวสถาปนิกรุ่นใหม่ๆของไทยเรา จะมีปัญหาน่ะ เนื่องจากสถาปนิกไทยส่วนใหญ่มักไม่ค่อยออกไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน ยกเว้นสิงค์โปที่ไปกันปกติอยู่แล้ว แต่ในทางกลับกัน คนจากประเทศเพื่อนบ้านต่างๆจะเข้ามาทำงานในไทยมากขึ้น เนื่องจากเรื่องของค่าเงิน และชีวิตการเป็นอยู่ที่ดีกว่า ซึ้งจะเป็นปัญหาที่เราจะมีคู่แข่งด่านการงานที่มากขึ้น ท่ามุมมองเรายังอยู่แค่ภายในประเทศเราเอง
Q:แล้วสถาปนิกรุ่นใหม่ๆที่จบมา ในมุมมองของพี่โน เป็นยังไงบ่างครับ
A: ในมุมมองของพี่ พี่ยังไม่เคยเจอสถาปนิกรุ่นใหม่ๆที่จะมีความนี้ที่สามารถเอาแบบมานั้งคุยกันได้ ซึ้งพี่มองว่ามันยังคงอยู่ในระดับที่ธรรมดา ซึ้งการที่กล้าคิดกล้าทำ แต่ก็ยังคงต้องอยูในพื้นฐานของความจริง พี่อยากให้สถาปนิกรุ่นใหม่ๆ กล้าพูดกล้าทำ กล้าแสดงออก
Q:สุดท้ายนี้ อยากจะให้พี่โนช่วยฝากข้อคิดถึงน้องๆที่เรียน และกำลังจะเรียนด้านสถาปัตยกรรม หน่อยครับ
A:เวลาจะทำอะไรสักอย่าง จงคิดให้เยอะ และต้องลงมือทำ และมองดูว่า สิ่งที่คิดกับกำสิ่งที่ลงมือทำนั้น ไปด้วยกันหรือเปล่า ซึ้งที่ทำมันต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเป็นเรื่องธรรมดา แต่ท่าเราไม่ได้ลงมือทำเราจะไม่รู้ว่าความคิดเราตรงไหนต้องปรับปรุ่งแก้ไข คิดให้เยอะ และลงมือทำครับ
Q:วันนี้ต้องขอขอบคุณพี่โนมากน่ะครับ ที่ให้โอกาสผมได้มาสัมภาษณ์เรื่องต่างๆในวันนี้ ขอบคุณครับ ^ ^
Special
Q:อยากให้พี่โน ช่วยเล่าบรรยากาศสมัยยังเรียนสถาปัตอยู่ที่ลาดกระบังหน่อยครับ
A:ในสมัยพี่ กลุ่มของพี่จะเป็นแนวชอบทำงานกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะกิกกรมที่ชอบมากที่สุดคงเป็น เตะบอลใต้ตึก น่ะ ตึก 4 ชั้น สมัยนั้นนี้เรียกได้ว่า ว่างตอนไหนเป็นอันเตะบอล อยู่ตลอด เนื่องจากสมัยนั้นกิจกรรมต่างๆมันน้อย และการเดินทางก็มี่แค่ รถไฟ กับ รถเมล์ อีกทั้งสมัยนั้นก็ไม่มีหอพักต่างๆเหมือนสมัยนี้ เพราะฉะนั้นเวลาที่จะเดินทางกลับบ้านในแต่ล่ะครั้งก็จะมีรอบของรถไฟ ซึ้งช่วงเวลาที่รถไฟนั้นแหละ พี่ก็จะมีกินดื่มกับเพื่อน เตะบอลไป ก่อนกลับบ้าน ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เพลิดเพลินมากเลยทีเดียวครับ